ท็อปผลไม้ที่มีแคลเซียมสูงที่ช่วยให้เด็กพัฒนาความสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แคลเซียมเป็นสารอาหารที่สำคัญอย่างยิ่งต่อกระบวนการเพิ่มความสูงของเด็ก หากได้รับอย่างเพียงพอ เด็กๆ จะสามารถสูงได้อย่างที่ต้องการในอนาคต นอกเหนือจากอาหารอย่างนมและเนื้อสัตว์แล้ว ผลไม้ก็เป็นแหล่งแคลเซียมที่เด็กๆ ชื่นชอบเป็นพิเศษ มาเรียนรู้กับ UniGrow เกี่ยวกับผลไม้ที่มีแคลเซียมสูงช่วยให้เด็กสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพกัน!

 

1. แคลเซียมมีบทบาทอย่างไรต่อพัฒนาการของเด็ก?

แคลเซียมมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาความสูงและสุขภาพโดยรวมของเด็ก แคลเซียมมีประโยชน์ต่อเด็กดังนี้:

• รักษาสุขภาพกระดูกและฟัน: แคลเซียมเป็นองค์ประกอบหลักของกระดูกและฟัน ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ในระหว่างการเจริญเติบโต เด็กจำเป็นต้องได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ เพื่อให้สามารถพัฒนาความสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• สนับสนุนการทำงานของกล้ามเนื้อ: แคลเซียมช่วยให้ร่างกายควบคุมการหดตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ
• สนับสนุนการทำงานของระบบประสาท: ระบบประสาทของมนุษย์ต้องการแคลเซียมเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ เนื่องจากแคลเซียมมีบทบาทในการช่วยส่งสัญญาณไฟฟ้าข้ามระหว่างเซลล์ประสาท

นอกจากนี้ แคลเซียมยังมีหน้าที่อื่นๆ เช่น เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน, สนับสนุนระบบย่อยอาหาร และปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เมื่อขาดแคลเซียม เด็กอาจประสบปัญหาสุขภาพ เช่น โรคกระดูกอ่อน, พัฒนาการล่าช้า, โรคกระดูกพรุน, ฟันผุ, ฟันขึ้นไม่สม่ำเสมอ เป็นต้น

2. ท็อปผลไม้ที่มีแคลเซียมสูงที่ช่วยให้เด็กพัฒนาความสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.1 ส้ม, ส้มเขียวหวาน

คนส่วนใหญ่มักคิดว่าส้มและส้มเขียวหวานให้เพียงแค่วิตามินซีแก่ร่างกาย แต่ไม่รู้ว่าผลไม้ชนิดนี้ยังมีแคลเซียมในปริมาณที่สูงอีกด้วย โดยเฉลี่ยในส้มหรือส้มเขียวหวาน 100 กรัม จะมีแคลเซียมประมาณ 43 มก.

คุณแม่สามารถเพิ่มส้มหรือส้มเขียวหวานในเมนูประจำวันของลูกได้ เช่น เป็นของหวาน หรือน้ำผลไม้หลังมื้ออาหาร

2.2 กีวี

กีวีเป็นผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบเพราะรสชาติที่เข้มข้น ในกีวี 100 กรัม มีแคลเซียมสูงถึง 34 มก. ดังนั้นกีวีจึงถือเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีแคลเซียมสูงที่สุด นอกจากนี้ กีวียังให้วิตามินซี, ใยอาหาร, โพแทสเซียม และสารอาหารอื่นๆ แก่ร่างกายอีกด้วย

2.3 อินทผลัม

อินทผลัมมีรสหวานและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย นอกจากการรักษาโรคแล้ว อินทผลัมยังเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดีมาก ในอินทผลัม 100 กรัม มีแคลเซียมประมาณ 14 มก. ซึ่งเทียบเท่ากับ 5% ของความต้องการแคลเซียมในแต่ละวัน

2.4 มะเดื่อฝรั่งแห้ง

มะเดื่อฝรั่งแห้งเป็นแหล่งของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย เช่น ใยอาหาร, โปรตีน, ไขมัน, แคลเซียม, แมงกานีส, โพแทสเซียม และวิตามินต่างๆ ที่มีบทบาทในการเสริมสร้างสุขภาพ ในมะเดื่อฝรั่งแห้ง 150 กรัม มีแคลเซียมสูงถึง 241 มก. โดยเฉลี่ยแล้ว มะเดื่อฝรั่งแห้งหนึ่งลูกมีแคลเซียมประมาณ 13 มก. ซึ่งเป็นปริมาณแคลเซียมที่สำคัญเมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นๆ

2.5 ลูกแพร์

ลูกแพร์เป็นผลไม้ที่ให้ความสดชื่น รสชาติดี และมีรสหวานอ่อนๆ นอกจากใยอาหาร, โปรตีน, วิตามินเค และวิตามินซีแล้ว ลูกแพร์ยังให้แคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสมอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากการศึกษาบางชิ้นพบว่าลูกแพร์หนึ่งลูกมีแคลเซียมประมาณ 54 มก.

2.6 ลูกพลัม

ลูกพลัมเป็นผลไม้ที่อุดมด้วยสารอาหารและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน, ดีต่อระบบย่อยอาหาร, ปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด, ดีต่อสายตา เป็นต้น ในลูกพลัมหนึ่งลูกมีแคลเซียมประมาณ 2% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน

2.7 หม่อน

หม่อนเป็นผลไม้ที่ไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อยเท่านั้น แต่ยังมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น ใยอาหาร, วิตามินซี, เค, โฟเลต, โพแทสเซียม, แคลเซียม และแมงกานีส ในหม่อน 150 มก. มีแคลเซียมประมาณ 55 มก. ดังนั้นคุณแม่จึงสามารถเพิ่มผลไม้ชนิดนี้ในเมนูประจำวันเพื่อให้ลูกพัฒนาความสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.8 ส้มจี๊ด

ส้มจี๊ดเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพและมีสารอาหารที่สำคัญมากมาย ส้มจี๊ดเช่นเดียวกับส้มและส้มเขียวหวาน มีวิตามินซีสูง รวมถึงสารอาหารและแร่ธาตุอื่นๆ เช่น ใยอาหาร, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส นอกจากนี้ ในส้มจี๊ดหนึ่งผลยังมีแคลเซียมประมาณ 12 มก. ดังนั้นคุณแม่จึงสามารถใช้ส้มจี๊ดทดแทนส้มหรือส้มเขียวหวานในอาหารของลูกได้

3. ข้อควรระวังในการเสริมผลไม้ที่มีแคลเซียมสูงให้เด็ก

แม้ว่าผลไม้ที่มีแคลเซียมสูงจะเป็นกลุ่มอาหารที่อุดมด้วยสารอาหารและมีประโยชน์ต่อสุขภาพของเด็กเล็ก แต่หากเสริมไม่ถูกวิธี มากเกินไป หรือน้อยเกินไป ก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจกับสิ่งต่อไปนี้เมื่อเสริมแคลเซียมให้ลูกผ่านการรับประทานผลไม้:

ไม่ละเลยสารอาหารอื่นๆ: การเสริมแคลเซียมให้เพียงพอสำหรับเด็กควรรวมถึงอาหารที่หลากหลายจากแหล่งแคลเซียมทั้งจากสัตว์และพืช คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรเน้นแค่การเสริมแคลเซียมจากผลไม้แล้วละเลยแหล่งแคลเซียมอื่นๆ ที่อุดมสมบูรณ์ เช่น นม เนื้อสัตว์... คุณพ่อคุณแม่ควรแน่ใจว่าได้รับแคลเซียมเพียงพอในแต่ละวัน ควบคู่ไปกับโภชนาการที่สมดุล ซึ่งประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, ไขมัน, วิตามิน และแร่ธาตุอื่นๆ

เลือกผลไม้สด: เมื่อซื้อผลไม้ให้ลูก ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีที่มาที่ไปชัดเจน และผลไม้สดใหม่ ไม่เสียหายหรือช้ำ

คำนึงถึงความชอบของลูก: คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกรับประทานผลไม้ที่มีแคลเซียมสูงที่ลูกชอบและอยากรับประทาน ไม่ควรบังคับให้ลูกรับประทานผลไม้ที่ไม่ชอบ เพราะอาจนำไปสู่การที่ลูกเบื่ออาหารหรือกินยาก

รักษาสมดุลทางโภชนาการ: คุณพ่อคุณแม่ควรสร้างสมดุลทางโภชนาการให้ลูก หลีกเลี่ยงการให้ลูกรับประทานอาหารกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกินไปหรือน้อยเกินไป เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาและเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ

ในบทความข้างต้น UniGrow ได้รวบรวมผลไม้ที่มีแคลเซียมสูง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถเพิ่มเข้าไปในอาหารของลูก เพื่อสนับสนุนพัฒนาการของเด็กเล็กได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กสามารถพัฒนาความสูงได้อย่างเต็มที่ คุณพ่อคุณแม่ควรผสมผสานกับอาหารที่หลากหลายซึ่งมีกลุ่มอาหารอื่นๆ ด้วย