ควรเสริมแคลเซียมสำหรับเด็กที่ฟันขึ้นช้าหรือไม่?

ภาวะฟันขึ้นช้าในเด็กอาจมีสาเหตุมาจากการขาดแคลเซียม ดังนั้นผู้ปกครองหลายคนจึงสงสัยว่า ควรเสริมแคลเซียมสำหรับเด็กที่ฟันขึ้นช้าหรือไม่ และควรเสริมอย่างไรจึงจะได้ผลดี มาค้นหาคำตอบไปพร้อมกับ UniGrow ในบทความนี้กันเถอะ!

 

1. เด็กฟันขึ้นช้าเกิดจากอะไร?

ฟันขึ้นช้า คือภาวะที่ฟันน้ำนมของเด็กเริ่มขึ้นช้ากว่าปกติ ตามข้อมูลจากสมาคมทันตแพทย์แห่งอังกฤษและสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา

เด็กส่วนใหญ่จะมีฟันซี่แรกขึ้นในช่วงอายุระหว่าง 4 ถึง 13 เดือน โดยทั่วไปแล้ว ฟันจะเริ่มขึ้นเมื่อเด็กอายุประมาณ 6 เดือน และหากเด็กอายุเกิน 13 เดือนแล้วยังไม่มีฟันซี่ใดขึ้นเลย จะถือว่าเป็นภาวะฟันขึ้นช้า

ต่อไปนี้คือสาเหตุที่อาจทำให้เด็กมีภาวะฟันขึ้นช้า:

1.1 สาเหตุทางสรีรวิทยา

หากเด็กยังคงมีการเจริญเติบโตของส่วนสูงและน้ำหนักเป็นปกติ รับประทานอาหารได้ดีเช่นเดียวกับเด็กคนอื่น ๆ แต่ฟันขึ้นช้า อาจเกิดจากสาเหตุทางสรีรวิทยา เช่น กรรมพันธุ์ หากพ่อแม่หรือพี่น้องของเด็กมีประวัติฟันขึ้นช้าตั้งแต่เด็ก ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าเด็กจะเริ่มมีฟันซี่แรกหลังจากอายุ 12 เดือน

นอกจากนี้ เด็กที่คลอดก่อนกำหนด หรือเด็กน้ำหนักแรกเกิดต่ำ มักประสบปัญหาฟันขึ้นช้าเช่นกัน เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้มีความบอบบาง ร่างกายยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ และมีอัตราการเติบโตช้ากว่าเด็กที่คลอดครบกำหนดและมีน้ำหนักปกติ

1.2 สาเหตุทางพยาธิสภาพ

เมื่อเด็กมีภาวะฟันขึ้นช้า ร่วมกับอาการผอม โตช้า หรือแสดงอาการของโรคกระดูกอ่อน รวมถึงความผิดปกติอื่น ๆ มักมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับปัญหาทางพยาธิสภาพและโภชนาการ โรคที่พบได้บ่อย ได้แก่:

ภาวะขาดสารอาหาร: เด็กที่มีภาวะขาดสารอาหารมักขาดแคลเซียมที่จำเป็นต่อการสร้างโครงสร้างของฟัน ส่งผลให้ฟันขึ้นช้า

ขาดแคลเซียม: แคลเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญในการสร้างกระดูกและฟัน หากเด็กได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอจากอาหารในแต่ละวัน อาจทำให้การก่อตัวของรากฟันและเคลือบฟันช้าลง

ขาดวิตามิน D3 และ K2: การขาดวิตามินสำคัญทั้งสองชนิดนี้ส่งผลให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ไม่ดี จึงส่งผลกระทบต่อการสร้างฟัน

ติดเชื้อในช่องปาก: การติดเชื้อหรือปัญหาสุขภาพในช่องปาก เช่น เหงือกอักเสบ อาจก่อให้เกิดการอักเสบและส่งผลต่อพัฒนาการของฟัน

ความผิดปกติแต่กำเนิด: ความผิดปกติแต่กำเนิดในบริเวณช่องปากและใบหน้าและขากรรไกรอาจทำให้ฟันขึ้นช้าและต้องได้รับการรักษาเฉพาะทาง

2. เด็กที่ฟันขึ้นช้าจะมีผลเสียหรือไม่?

พ่อแม่ไม่ควรกังวลมากเกินไปเมื่อฟันของลูกขึ้นช้า เพราะปรากฏการณ์นี้ไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก และไม่ควรเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่น ๆ เนื่องจากระยะเวลาการขึ้นฟันของเด็กแต่ละคนแตกต่างกัน

อย่างไรก็ตาม การขึ้นฟันช้าอาจเป็นสัญญาณหนึ่งของโรคอื่น ๆ และควรได้รับการตรวจและรักษาอย่างทันที หากปล่อยไว้นานๆ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ในอนาคต เช่น:

ฟันแท้ขึ้นผิดตำแหน่งเนื่องจากฟันน้ำนมขึ้นช้าเกินไป: การที่ฟันน้ำนมขึ้นช้าอาจส่งผลให้ฟันแท้ขึ้นช้าและไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง

ฟันแท้ขึ้นพร้อมกับฟันน้ำนม ทำให้เกิด “ฟันสองแถว” ซึ่งทำให้ทำความสะอาดได้ยากและเสียความสวยงาม

ภาวะการอักเสบ: เมื่อฟันขึ้นช้ามากและยังคงอยู่ใต้เหงือก อาจทำให้เกิดการอักเสบรอบ ๆ ตัวฟัน ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดและเหงือกอักเสบ และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในช่องปากอื่น ๆ

ฟันผุตั้งแต่ยังอยู่ใต้เหงือก:เมื่อฟันขึ้นช้าและยังคงอยู่ใต้เหงือกเป็นเวลานาน แบคทีเรียที่ทำให้ฟันผุยังสามารถเติบโตได้ ซึ่งอาจทำให้ฟันผุตั้งแต่ยังไม่โผล่พ้นเหงือก และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจลุกลามและทำให้ฟันซี่อื่น ๆ ผุตามไปด้วย

3. ทำไมจึงควรเสริมแคลเซียมสำหรับเด็กที่ฟันขึ้นช้า

จากการวิจัยพบว่า แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่สำคัญในร่างกายมนุษย์ คิดเป็นประมาณ 1.5 - 2% ของน้ำหนักตัว โดยในปริมาณแคลเซียมทั้งหมดนั้น 99% จะอยู่ในรูปของโครงสร้างกระดูก ฟัน และเล็บ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของแคลเซียมในการสร้างและคงสภาพความแข็งแรงของระบบกระดูกและฟัน

ดังนั้น การขาดแคลเซียมอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ฟันขึ้นช้าในเด็ก แคลเซียมเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน การขาดแคลเซียมอาจทำให้โครงสร้างของฟันอ่อนแอ แตกหักง่าย และทำให้กระบวนการขึ้นฟันเป็นไปอย่างยากลำบาก

4. วิธีการเสริมแคลเซียมสำหรับเด็กที่ฟันขึ้นช้า

4.1 เสริมอาหารที่มีแคลเซียมสูงสำหรับเด็ก

นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต ชีส ล้วนเป็นแหล่งอาหารที่มีแคลเซียมสูงและสารอาหารที่จำเป็นอื่น ๆ ซึ่งคุณแม่สามารถนำมาบรรจุไว้ในเมนูอาหารประจำวันของลูกได้ นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มความหลากหลายด้วยอาหารประเภทอื่น ๆ เช่น อาหารทะเล (ปลา กุ้ง ปู) ถั่วและเมล็ดต่าง ๆ (เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดฟักทอง เมล็ดแฟลกซ์) ผักใบเขียว (ผักโขม คะน้า ฯลฯ)

4.2 อาหารเสริมแคลเซียม

พ่อแม่สามารถเสริมแคลเซียมให้กับลูกได้โดยใช้อาหารเสริมต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการให้เด็กทานอาหารเสริมใด ๆ ข้อควรระวัง: ไม่ควรให้เด็กทานแคลเซียมเมื่อหิว

4.3 การอาบแดด

การอาบแดดเป็นวิธีหนึ่งในการเสริมวิตามิน D ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณแม่สามารถพาเด็กอาบแดดในช่วงเวลา 7:00 – 9:00 น. ประมาณ 15 – 30 นาที

 

จากบทความข้างต้น UniGrow ได้อธิบายข้อสงสัยของพ่อแม่หลาย ๆ คนเกี่ยวกับปรากฏการณ์ฟันขึ้นช้าในเด็ก การเสริมแคลเซียมจะช่วยเร่งกระบวนการขึ้นฟันของเด็กได้ ดังนั้น พ่อแม่ควรเสริมแคลเซียมให้ลูกอย่างเหมาะสมและเพียงพอ เพื่อช่วยปรับปรุงภาวะฟันขึ้นช้า