อาหารทะเลที่อุดมแคลเซียมและสารอาหารที่ดีสำหรับเด็ก

ในร่างกายมนุษย์ แคลเซียมมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง สารนี้ช่วยเพิ่มแคลเซียมให้กับร่างกาย ดีต่อกระดูกและฟัน แคลเซียมมีอยู่ในผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพมากมาย เช่น ยารับประทาน, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, ลูกอม แต่แหล่งที่ปลอดภัยที่สุดยังคงเป็นปริมาณแคลเซียมที่เราได้รับในแต่ละวัน
1. ทำไมเราถึงต้องการแคลเซียม?
แคลเซียมเป็นแร่ธาตุจำเป็นที่ช่วยสร้างและรักษาระบบกระดูกและฟันให้แข็งแรง ร่างกายต้องการแคลเซียมเพื่อสนับสนุนการหดตัวของกล้ามเนื้อ, การส่งกระแสประสาท และการควบคุมการเต้นของหัวใจให้คงที่ นอกจากนี้ แคลเซียมยังมีบทบาทสำคัญในกระบวนการแข็งตัวของเลือดและปฏิกิริยาการเผาผลาญอาหาร การขาดแคลเซียมง่ายต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน, ปวดเมื่อย, ตะคริว และส่งผลกระทบต่อการพัฒนาความสูง การเสริมแคลเซียมอย่างถูกวิธีจะช่วยยกระดับสุขภาพโดยรวมได้

อาหารเสริมแคลเซียมสำหรับเด็ก
สำหรับเด็ก แคลเซียมช่วยสร้างระบบกระดูกและฟันให้แข็งแรง สนับสนุนการพัฒนาความสูง พร้อมทั้งมีส่วนร่วมในการหดตัวของกล้ามเนื้อ, การส่งกระแสประสาท และการสร้างสารเคลือบฟันน้ำนม หากขาดแคลเซียม เด็กจะโตช้า, ตัวเล็ก, ฟันอ่อนแอ, ฟันผุง่าย และมีอาการชักกระตุกบ่อยครั้งเนื่องจากความผิดปกติของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
2. ท็อปอาหารทะเลที่อุดมแคลเซียม
2.1 ปลาชนิดต่างๆ
ปลาถือเป็นอาหารทะเลที่อุดมด้วยแคลเซียม และเป็นอาหารเสริมแคลเซียมสำหรับเด็ก นอกจากนี้ ในปลายังมีแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น โปรตีน, แคลเซียม, โอเมก้า 3 (DHA, EPA), วิตามิน D, วิตามินบีต่างๆ (B12, B6) และแร่ธาตุอื่นๆ เช่น ฟอสฟอรัส, สังกะสี, ซีลีเนียม... ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและปกป้องเซลล์
ปลาบางชนิดที่ให้แคลเซียมในปริมาณมาก ได้แก่: ปลากระป๋อง (ปลาซาร์ดีน), ปลาไส้ตัน, ปลาเฮอร์ริ่ง, ปลาแซลมอน, ปลาทู, ปลาคาร์ป...
2.2 ปู, ปูม้า
ปูและปูม้าเป็นแหล่งอาหารทะเลที่อุดมแคลเซียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณรับประทานส่วนกระดองแข็ง (ที่ได้รับการปรุงอย่างเหมาะสม) โดยปูประมาณ 100 กรัม ให้แคลเซียมประมาณ 80 - 150 มก. และปูม้า 100 กรัม ให้แคลเซียม 70 - 120 มก. (แคลเซียมส่วนใหญ่จะอยู่ในกระดองและก้าม) นอกจากแคลเซียมแล้ว สัตว์เหล่านี้ยังให้โปรตีน, แร่ธาตุ และวิตามินที่สำคัญอื่นๆ แก่ร่างกาย ซึ่งดีมากสำหรับเด็ก, สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร

ปู 100 กรัม
2.3 กุ้ง
กุ้งเป็นหนึ่งในอาหารทะเลที่อุดมแคลเซียมชั้นนำ โดยเฉพาะกุ้งตัวเล็กที่สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือก ในกุ้ง 100 กรัม สามารถให้แคลเซียมได้ 100-200 มก. ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการพัฒนาโครงสร้างกระดูกและความสูง นอกจากนี้ กุ้งยังมีฟอสฟอรัส, โปรตีน และวิตามิน D ที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น ด้วยแหล่งแคลเซียมที่ดูดซึมง่าย กุ้งจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเด็กที่กำลังเติบโต, ผู้สูงอายุ และผู้ที่ต้องการเสริมแร่ธาตุ

เนื้อกุ้งช่วยเสริมแคลเซียมให้เด็ก
2.4 หอยนางรม, หอยขม, หอยเชลล์
นอกจากความอร่อยแล้ว หอยนางรม, หอยขม, หอยเชลล์ ยังเป็นอาหารทะเลที่อุดมแคลเซียมที่ดีต่อสุขภาพกระดูกและฟัน โดยเฉพาะสำหรับเด็ก
ในเนื้อหอยขม 100 กรัม สามารถมีแคลเซียมได้ 100-150 มก. นอกจากนี้ เนื้อหอยขมยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็ง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, และการติดเชื้อ

หอยหวาน
หอยนางรมและหอยเชลล์ก็ให้แคลเซียมในปริมาณที่สำคัญ พร้อมด้วยแร่ธาตุอื่นๆ เช่น สังกะสี, เหล็ก และแมกนีเซียม อาหารกลุ่มนี้ช่วยให้เด็กพัฒนาความสูงและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

หอยนางรม
ด้วยแหล่งแคลเซียมจากธรรมชาติที่ดูดซึมง่าย การเพิ่มหอยนางรม, หอยขม, หอยเชลล์ ในเมนูประจำสัปดาห์จึงเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการปกป้องสุขภาพกระดูกและข้อของทุกคนในครอบครัว
2.5 ปลาหมึก
ปลาหมึกถือเป็นอาหารทะเลที่อุดมแคลเซียม เพราะในปลาหมึกสด 100 กรัม มีแคลเซียมประมาณ 144 มก. ซึ่งช่วยสร้างและรักษาระบบกระดูกและฟันให้แข็งแรง นอกจากแคลเซียมแล้ว ปลาหมึกยังให้สารอาหารที่จำเป็นอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ฟอสฟอรัส, โปรตีน, สังกะสี, วิตามิน B12 – ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและพัฒนาการทางร่างกายอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ

ปลาหมึก
แคลเซียมในปลาหมึกยังค่อนข้างดูดซึมง่าย ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนและลดความเสี่ยงของการขาดวิตามินและแร่ธาตุ ด้วยรสชาติที่อร่อย, คุณค่าทางโภชนาการสูง และปรุงง่าย ปลาหมึกจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเมนูเสริมอาหารทะเลที่อุดมแคลเซียมสำหรับทุกเพศทุกวัย
3. ข้อควรระวังบางประการในการรับประทานอาหารทะเล
อาหารทะเลเป็นอาหารที่อุดมด้วยสารอาหาร แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ได้ ยังคงมีบางคนที่เกิดอาการแพ้หรืออาหารเป็นพิษเมื่อรับประทานอาหารทะเลที่อุดมแคลเซียม ด้านล่างนี้คือข้อควรระวังบางประการในการรับประทานอาหารทะเล:
- เลือกอาหารทะเลสด มีแหล่งที่มาที่ชัดเจน: เมื่อซื้ออาหารทะเลที่อุดมแคลเซียม ควรเลือกอาหารทะเลสด มีสีสันที่ดี หากเลือกอาหารทะเลแช่แข็ง ควรทราบวิธีเลือกที่ถูกต้อง หลีกเลี่ยงการซื้ออาหารทะเลที่ไม่สดหรือมีกลิ่นเหม็น เพราะอาจทำให้เกิดอาหารเป็นพิษได้ง่าย
- ไม่ดื่มเบียร์หรือสุราหลังรับประทานอาหารทะเล: อาจทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย ระคายเคืองระบบย่อยอาหาร เพิ่มความเสี่ยงโรคเกาต์สำหรับผู้ที่มีกรดยูริกสูง
- ไม่รับประทานร่วมกับอาหารที่อุดมด้วยวิตามิน C (เช่น บรอกโคลี, กะหล่ำดอก, พริกหวาน...): อาหารทะเลบางชนิด เช่น ปู, กุ้ง, ปลา... ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอาหารทะเลที่อุดมแคลเซียม พวกมันมีสารหนูอินทรีย์ ซึ่งเมื่อรวมกับวิตามิน C ในปริมาณสูง อาจก่อให้เกิดสารพิษ (สารหนูอนินทรีย์) ได้
- ไม่รับประทานอาหารทะเลตอนดึก: อาหารทะเลมีโปรตีนสูง การรับประทานดึกอาจทำให้ท้องอืด ย่อยยาก และส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ
อาหารทะเลที่อุดมแคลเซียมไม่เพียงช่วยพัฒนาความสูงและเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง แต่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและปรับปรุงการทำงานของระบบประสาท การเลือกอาหารทะเลเช่น กุ้ง, ปู, ปลาซาร์ดีน, หอย หรือปลาหมึก เข้ามาในเมนูประจำวันเป็นทางออกที่เป็นธรรมชาติ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการเสริมแคลเซียมให้ทุกคนในครอบครัว ควรรับประทานอย่างถูกวิธี รักษาความสะอาด และควบคู่ไปกับโภชนาการที่เหมาะสมเพื่อการดูดซึมแคลเซียมที่ดีที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้อง: แคลเซียมคืออะไร? บทบาทของแคลเซียมต่อสุขภาพ
คุณแม่สนใจ

แนะนำนมเพิ่มความสูงสำหรับเด็ก 6 ขวบ: ดื่มถูกวิธี ลูกสูงเพรียว!

นมพัฒนาความสูงสำหรับเด็กอายุน้อยกว่า 10 ปีที่มีประสิทธิภาพที่สุด

คำแนะนำในการเลือกนมเพิ่มความสูงสำหรับเด็กอายุ 9 ปี – คุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจสิ่งนี้!

นมเพิ่มความสูงสำหรับเด็กอายุ 7 ปี: วิธีเลือกที่ถูกต้องช่วยให้ลูกพัฒนาการโดดเด่น

11 ผักแคลเซียมสูงที่ควรเสริมสำหรับเด็ก

สินค้าแนะนำ
ดูสินค้า
