วิตามิน K2 คืออะไร? เสริมวิตามิน K2 มีประโยชน์ต่อเด็กอย่างไร?

วิตามิน K2 เป็นวิตามิน K รูปแบบหนึ่งที่พบในอาหารจากสัตว์หรืออาหารหมักดอง เป็นวิตามินที่จำเป็นต่อกระบวนการแข็งตัวของเลือดและกระดูกที่แข็งแรง วิตามิน K มีสองรูปแบบคือ วิตามิน K1 และ วิตามิน K2 วิตามิน K1 เป็นรูปแบบหลักและพบได้ในผักใบเขียวหลายชนิด ส่วนวิตามิน K2 มักพบในโปรตีนจากสัตว์และอาหารหมักดอง
1. บทบาทของวิตามิน K2 สำหรับเด็ก
น้อยคนนักที่จะรู้จักวิตามิน K2 เนื่องจากสารอาหารนี้หายากในอาหาร และไม่ได้รับความสนใจอย่างเพียงพอจากผู้คน อย่างไรก็ตาม สารอาหารนี้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพของมนุษย์ ก่อนที่เราจะไปทำความเข้าใจบทบาทของวิตามิน K2 เราจำเป็นต้องเข้าใจกลไกการทำงานของสารนี้ก่อน
วิตามิน K2 ทำงานโดยกระตุ้นโปรตีนที่มีบทบาทในการแข็งตัวของเลือด การเผาผลาญแคลเซียม และการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด หนึ่งในหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของวิตามิน K2 คือการควบคุมการสะสมของแคลเซียม หรืออีกนัยหนึ่งคือช่วยส่งเสริมกระบวนการสร้างกระดูกและป้องกันการสะสมของแคลเซียมในหลอดเลือด ด้วยเหตุนี้ การเสริมวิตามิน K2 จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อสุขภาพของทุกคน

อาหารที่ช่วยเสริมวิตามิน K2 สำหรับทารก
บทบาทบางประการของวิตามิน K2:
- ดีต่อสุขภาพช่องปาก: ออสทีโอแคลซิน (Osteocalcin) เป็นโปรตีนหลักที่มีผลต่อความสมดุลของสุขภาพช่องปาก นอกจากนี้ โปรตีนชนิดนี้ยังมีส่วนร่วมในการเผาผลาญแคลเซียมร่วมกับวิตามิน A และวิตามิน D จึงช่วยให้คุณมีฟันที่แข็งแรง
- ช่วยขนส่งแคลเซียมไปยังตำแหน่งที่ถูกต้องในร่างกาย: วิตามิน K2 ช่วยกระตุ้นออสทีโอแคลซิน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยเชื่อมโยงแคลเซียมเข้าสู่กระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรง ป้องกันการสะสมของแคลเซียมในหลอดเลือดแดงและเนื้อเยื่ออ่อน ลดความเสี่ยงของภาวะหลอดเลือดแข็งตัวและโรคหัวใจและหลอดเลือด
- เพิ่มประสิทธิภาพของวิตามิน D3: วิตามิน D3 ช่วยดูดซึมแคลเซียมจากลำไส้ ในขณะที่วิตามิน K2 ช่วยประสานงานให้แคลเซียมไปถึงตำแหน่งที่จำเป็นและป้องกันไม่ให้สะสมผิดที่ วิตามินทั้งสองชนิดนี้เสริมฤทธิ์กันในร่างกาย เพื่อให้ลูกน้อยเติบโตได้ดี จะขาดสารใดสารหนึ่งไปไม่ได้
- ปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด: โดยการยับยั้งการแข็งตัวของผนังหลอดเลือด วิตามิน K2 ช่วยรักษาความยืดหยุ่นของหลอดเลือดแดง สนับสนุนการแข็งตัวของเลือด และลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดสมอง
- สนับสนุนการพัฒนาความสูงในเด็ก: การเสริมวิตามิน K2 อย่างถูกวิธีช่วยให้แคลเซียมถูกยึดติดกับกระดูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนการพัฒนาความสูงสูงสุดในช่วงการเจริญเติบโต
การขาดวิตามิน K2 อาจทำให้มีแคลเซียมส่วนเกินเนื่องจากไม่ถูกดูดซึม ซึ่งจะทำให้เด็กเกิดอาการท้องผูก นอกจากนี้ การมีแคลเซียมส่วนเกินยังทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า คลื่นไส้ ลดการดูดซึมแร่ธาตุ และจำกัดการดูดซึมของกระดูก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความสูงของเด็ก
2. อันดับอาหารเสริมวิตามิน K2 ที่ดีที่สุดคุณแม่ควรรู้
2.1 เนื้อสัตว์และปลา
เนื้อสัตว์และปลาเป็น 2 ประเภทอาหารที่มีวิตามิน K2 ในปริมาณหนึ่งตามธรรมชาติ ส่วนใหญ่เป็นเมนาควิโนน-4 (MK-4) ซึ่งเป็นวิตามิน K2 สายสั้น เนื้อสัตว์บางชนิดที่มีวิตามิน K2 ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่... เนื้อสัตว์ที่เลี้ยงด้วยหญ้าหรือปล่อยตามธรรมชาติมักจะมีวิตามิน K2 มากกว่า
ปลาเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3, DHA และวิตามินอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงวิตามิน K2 ปลาบางชนิดที่ควรเพิ่มในอาหารประจำวัน ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล…

เนื้อสัตว์และปลาเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน K2
2.2 นมและผลิตภัณฑ์จากนม
นมและผลิตภัณฑ์จากนมเป็นแหล่งอาหารธรรมชาติที่ให้วิตามิน K2 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปของเมนาควิโนน-7 (MK7) และรูปแบบสายยาวอื่นๆ นมจากวัว (โดยเฉพาะวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้า) มีปริมาณวิตามิน K2 ที่ดีและมากกว่าวัวที่เลี้ยงด้วยอาหารอื่น

ผลิตภัณฑ์นมบางชนิดเสริมวิตามิน K2 อย่ามหาศาล
2.3 ถั่วหมัก
ถั่วหมักหรือที่เรียกว่านัตโตะ นี่คืออาหารหมักแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น มีกลิ่นฉุนเล็กน้อยหลังกระบวนการหมัก อาหารนี้มีวิตามิน K2 ค่อนข้างมากและมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ
การบริโภคนัตโตะร่วมกับ D3 และแคลเซียมในเวลาเดียวกันช่วยให้เด็กสูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณแม่สามารถผสมนัตโตะกับอาหารอื่นๆ เช่น ขนมปัง ข้าวสวย อุด้ง โอโคโนมิยากิ... เพื่อสร้างอาหารที่เหมาะสม

ถั่วเหลืองหมักอุดมไปด้วยวิตามิน K2 ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
2.4 ไข่
ไข่เป็นหนึ่งในแหล่งอาหารที่อุดมด้วยวิตามิน K2 ตามธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไข่แดง วิตามิน K2 ในไข่ส่วนใหญ่เป็นเมนาควิโนน-4 (MK-4) ซึ่งช่วยสนับสนุนการขนส่งแคลเซียมไปยังกระดูก เสริมสร้างสุขภาพกระดูก และป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด เมื่อเทียบกับอาหารอื่นๆ ไข่ไม่เพียงแต่ให้วิตามิน K2 ในปริมาณที่สำคัญเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งโภชนาการที่หลากหลายด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้น การเพิ่มไข่ในอาหารประจำวันจึงหมายถึงการเสริมวิตามิน K2 ที่จำเป็นต่อร่างกายทุกวัน

ไข่แดงมีวิตามิน K2 สูงสำหรับทารก
2.5 ตับ
ตับวัวให้วิตามิน K2 106 ไมโครกรัม ส่วนตับห่านให้มากถึง 369 ไมโครกรัม ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารประเภทเครื่องในที่อุดมด้วยวิตามิน K2 มากที่สุด ด้วยปริมาณวิตามิน K2 ตามธรรมชาติ ตับวัวช่วยสนับสนุนกระบวนการเชื่อมแคลเซียมเข้ากับกระดูก ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนและหลอดเลือดแดงแข็ง นี่เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมวิตามิน K2 ผ่านอาหารโดยไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นอกจากนี้ ตับวัวยังอุดมไปด้วยวิตามิน A ธาตุเหล็ก และสังกะสี ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพเลือด ภูมิคุ้มกัน และผิวหนัง

ตับห่านอุดมไปด้วยวิตามิน K2 ที่ช่วยพัฒนาการของทารก
ต่อไปนี้คือตารางปริมาณวิตามิน K2 ในอาหารที่คุณควรรู้:
เลขที่ |
อาหาร |
วิตามิน K2 ต่ออาหาร 100 กรัม |
1 |
เนื้อไก่ |
24 - 35.7 ไมโครกรัม |
2 |
เนื้อวัว |
8.1 ไมโครกรัม |
3 |
โยเกิร์ต |
6.1 ไมโครกรัม |
4 |
นัตโตะ (ถั่วหมัก) |
1000 ไมโครกรัม |
5 |
ไข่ |
32 - 34 ไมโครกรัม |
6 |
ตับวัว |
106 ไมโครกรัม |
7 |
ตับห่าน |
369 ไมโครกรัม |
3. การเสริมวิตามิน K2 ด้วยนม UniGrow

นม UniGrow ช่วยเสริมวิตามิน K2 ให้ลูกน้อย
วิตามิน K2 เป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างยิ่งในการช่วยขนส่งแคลเซียมเข้าสู่กระดูกและฟัน พร้อมทั้งป้องกันภาวะหลอดเลือดแข็งตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กในวัยเจริญเติบโต การเสริมวิตามิน K2 ช่วยให้กระดูกแข็งแรง เพิ่มความสูง และสนับสนุนกระบวนการเผาผลาญสารต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้วยความเข้าใจถึงความสำคัญดังกล่าว UniGrow จึงได้รับการวิจัยและเสริมวิตามิน K2 จากธรรมชาติ ผสมผสานกับแคลเซียม วิตามิน D3 และแร่ธาตุที่จำเป็น ซึ่งช่วยสร้าง "สามสหายทองคำ" ที่สนับสนุนการดูดซึมและการพัฒนาระบบกระดูกได้อย่างเหมาะสม การเสริมวิตามิน K2 ในสูตรนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกน้อยสูงใหญ่แข็งแรง แต่ยังช่วยปกป้องสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดตั้งแต่เนิ่นๆ
ด้วยนม UniGrow 2-3 แก้วต่อวัน ควบคู่ไปกับการเสริมโภชนาการจากอาหารประจำวัน และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ คุณแม่ก็สามารถวางใจได้ว่าจะมอบแหล่งโภชนาการที่ครบถ้วน สมดุล และอุดมไปด้วยวิตามิน K2 ที่ปลอดภัยและดูดซึมง่ายสำหรับลูกน้อย
สรุปได้ว่า วิตามิน K2 มีบทบาทสำคัญในการขนส่งและการใช้แคลเซียมอย่างถูกต้องในร่างกาย ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และสนับสนุนการเพิ่มความสูง อย่างไรก็ตาม วิตามิน K2 มักมีปริมาณไม่สูงในอาหารธรรมชาติ โดยส่วนใหญ่จะพบในอาหารจากสัตว์และพืชหมัก
ดังนั้น การเลือกผลิตภัณฑ์โภชนาการที่มีวิตามิน K2 เช่น UniGrow จึงเป็นทางออกที่ปลอดภัย สะดวก และมีประสิทธิภาพ พ่อแม่ควรเริ่มต้นเส้นทางพัฒนาความสูงของลูกน้อยตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วย UniGrow – ผลิตภัณฑ์โภชนาการเฉพาะทางเพื่อการพัฒนาความสูงสำหรับเด็กตั้งแต่วันนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง: Aquamin F คืออะไร? UniGrow เสริมแคลเซียมจากสาหร่ายแดง Aquamin F
คุณแม่สนใจ

ตารางส่วนสูงและน้ำหนักของเด็กไทยตามมาตรฐานของปี 2568

อาหารที่มีแคลเซียม, D3, K2 สูง ช่วยให้กระดูกแข็งแรงและเพิ่มความสูงได้ดี

คำแนะนำแนวทางการเสริมแคลเซียมสำหรับเด็กอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

เสริมวิตามิน D3,K2 ช่วยให้เด็กเพิ่มความสูงถึงขีดสุด

UniGrow ประเทศไทย พร้อมด้วย CPP ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม — สูตรใหม่ที่ช่วยให้เด็กเติบโตทันตามวัย

สินค้าแนะนำ
ดูสินค้า
